1. กล่องไวโอลิน (Violin Case)
ปกป้องไวโอลินจากแรงกระแทก ควรเลือกกล่องที่แข็งแรง มีบุภายในดี และปิดล็อกแน่น พร้อมช่องเก็บโน้ตหรืออุปกรณ์เสริม
2. คันชัก (Bow)
วัสดุคุณภาพสูง เช่น Brazilwood, Carbon fiber หรือ Pernambuco พร้อมขนหางม้าจริง ช่วยผลิตเสียงดี ควรคลายคันชักหลังใช้งานเพื่อป้องกันไม้บิดงอ
3. ยางสน (Rosin)
ช่วยสร้างแรงเสียดทานระหว่างหางม้าและสาย เลือกชนิด ตามสภาพอากาศและสไตล์การเล่น
4. ที่รองไหล่ (Shoulder Rest)
ช่วยให้เล่นสะดวก ลดแรงกด ใช้ที่ปรับระดับได้ มีโฟมยางรองนุ่ม เพื่อความสบายระหว่างฝึกนานๆ
5. เครื่องตั้งเสียง (Tuner)
ช่วยตั้งสายได้อย่างแม่นยำ มีแบบหนีบกับไวโอลิน แบบส้อมเทียบเสียง หรือแอปในสมาร์ทโฟน เลือกแบบที่ใช้ง่าย
6. เครื่องเคาะจังหวะ (Metronome)
ฝึกควบคุมจังหวะให้สม่ำเสมอ โดยเฉพาะการซ้อมสเกลหรือเพลงที่ท้าทาย จังหวะตรงคือพื้นฐานสำคัญ
7. ชุดทำความสะอาด (Cleaning Kit)
ประกอบด้วยผ้านุ่มสำหรับเช็ด, แปรงทำความสะอาดคันชัก เก็บความสะอาดหลังเล่นเพื่อยืดอายุเครื่องดนตรี
8. ขาตั้งโน้ต (Music Stand)
ปรับระดับได้ พับเก็บได้ มีพื้นที่เพียงพอวางโน้ตหรืออุปกรณ์อื่น
9. สายสำรอง (Spare Strings)
ถ้าสายขาดระหว่างเล่นจะทำให้การเล่นขาดห้วง การมีสายสำรองในกระเป๋าจะช่วยให้เล่นต่อได้
10. ตัวดูดความชื้น (Dehumidifier)
ป้องกันไม้บวมหรือชื้นมากเกินไป โดยเฉพาะในสภาพอากาศที่มีฝนมาก เลือกที่ใช้ง่ายและดูแลไม่ยาก
11. มิ้วเก็บเสียง (Practice Mute)
ลดความดัง เหมาะสำหรับฝึกช่วงเวลากลางคืนหรือในที่ต้องการความเงียบ เลือกที่ใส่สะดวก ไม่กระทบโทนเสียง
การมีอุปกรณ์ที่เหมาะสม ไม่เพียงแต่ช่วยให้การเล่นไวโอลินปลอดภัย แต่ยังช่วยให้ฝึกง่าย สบายใจ และมีคุณภาพมากขึ้น ไม่ว่าคุณจะเพิ่งเริ่มต้นหรือเล่นอยู่แล้ว ลองเลือกอุปกรณ์ตามที่เหมาะกับตัวเอง เพื่อความสนุกกับดนตรีที่มากกว่าเดิม