ทำไมการเลือกสายไวโอลินจึงสำคัญ

ทำไมการเลือกสายไวโอลินจึงสำคัญ

By: Peterson Piano Institute


สายไวโอลินส่งผลโดยตรงต่อเสียงที่ออกมา ในแง่ของโทน (tone), ความสว่าง หรือความอบอุ่นของเสียง จึงสำคัญมากที่จะเลือกให้เหมาะกับไวโอลินและสไตล์ของผู้เล่น


1. พิจารณาคุณลักษณะของไวโอลินของคุณ

     - ถ้าไวโอลินมีเสียง อบอุ่นและนุ่มนวล - สายแกนสังเคราะห์ (synthetic core) จะช่วยเพิ่มความลึกและความหลากหลายของเสียง

     - ถ้าไวโอลินใหม่ และต้องการให้เสียง สว่างชัด - สายเหล็ก (steel strings) อาจเหมาะกว่า


2. ประเภทของสายไวโอลิน

• สายเหล็ก (Steel Core)

     - แข็งแรง ทนทาน ปรับตัวต่อสภาพอากาศได้ดี (humidity/temperature)

     - ให้เสียงสว่าง ชัด เหมาะสำหรับแนวเพลงที่ต้องการความโดดเด่น เช่น คอนเทมโพรารี, บลูกราส์

• สายแกนสังเคราะห์ (Synthetic Core)

     - ให้เสียงอบอุ่น ซับซ้อน คล้ายสาย gut แต่คงความคงตัวสูงกว่า

     - นักดนตรีคลาสสิกนิยมใช้ เพราะเหมาะกับหลายสไตล์ มีความทนทานต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ

• สายไส้สัตว์ (Gut Core)

     - ผลิตจากลำไส้วัวหรือแกะ เดิมเป็นสายยอดนิยมในดนตรีคลาสสิก

     - ให้เสียงกลมลึก มี overtone ซับซ้อน เช่น งานดนตรีประวัติศาสตร์

     - ต้องปรับจูนบ่อย มีความอ่อนไหวต่ออุณหภูมิและความชื้น - แต่ยังคงเป็นที่โปรดปรานของนักเล่นที่ต้องการสัมผัสดั้งเดิม


3. สาย E-String (สายสูงสุด) มีสำคัญอย่างไร?

     - มีผลอย่างมากต่อความใสและความคมของเสียง

     - สายเหล็ก E: ให้เสียงใส ชัด ตอบสนองรวดเร็ว เหมาะกับการเล่นโซโลและแนวดนตรีที่ต้องการความชัดเจน

     - สาย E เคลือบทอง (Gold-plated): เพิ่มความอบอุ่นของเสียง ลดความแข็งกระด้างของสายเหล็ก และยังคงความสว่าง

     - สาย E ที่ออกแบบป้องกันเสียง “whistle”: มี winding พิเศษ ช่วยลดเสียงติ๊ดที่ไม่พึงประสงค์เมื่อลากคันชักแรงเกินไป

     - มีสาย E alternative materials เช่น ไทเทเนียมหรืออะลูมิเนียม ที่ให้เสียงอบอุ่นหรือซับซ้อนขึ้น เพื่อความหลากหลายของเสียงตามสไตล์ 


4. ความตึงของสาย (String Tension)

     - ความตึงสูง: ให้เสียงดังกังวานและชัดเจน แต่ต้องออกแรงกดมากขึ้น

     - ความตึงต่ำ: เล่นง่ายกว่า แต่จะลดความดังและ projection เล็กน้อย


5. จับคู่สายกับแนวดนตรี

     - เช่น แนวดนตรีบลูส์หรือคันทรี มักเลือกสายเหล็ก เพราะความใสและคมของเสียง

     - นักดนตรีคลาสสิกมักชอบสายเคอร์สังเคราะห์ สำหรับความลึกและหลากหลายของโทนเสียง


6. อายุการใช้งานของสาย (Lifespan)

     - สายเหล็กทั่วไปทนทานและมีอายุการใช้งานยาวกว่าสาย gut หรือ synthetic

     - ทุกสายจะเสื่อมคุณภาพเมื่อใช้ไปนาน - เสียงอาจแบน, ตรงโทนลดลง, เล่นยากขึ้น

     - การดูแลรักษาและเก็บให้เหมาะสมจะช่วยยืดอายุสายได้


7. งบประมาณ (Budget)

     - สายมีราคาหลากหลาย - แบรนด์ชื่อดังหรือคุณภาพสูงมักราคาแพงกว่า

     - สายราคาประหยัดก็ให้เสียงใช้ได้เพียงพอสำหรับผู้เริ่มต้นหรือเล่นเพื่อความสนุก


8. ทดลองเองเป็นสิ่งสำคัญ (“Experimentation”)

     - ไม่มีสูตรสำเร็จ - สิ่งที่เหมาะกับคนหนึ่งอาจไม่เหมาะกับอีกคนหนึ่ง

     - ลองสายหลายแบบ หลายแบรนด์ หลายความตึง และหาตัวที่เหมาะกับเครื่องของคุณเอง

     - ขอคำแนะนำจากเพื่อนนักดนตรีหรือครู รวมถึงใช้ช่วง “ทดลอง” ของร้านหรือแบรนด์ให้คุ้มค่า


การเลือกสายไวโอลินที่เหมาะสมเป็นเรื่องเฉพาะตัวและเต็มไปด้วยรายละเอียด - จากประเภทของสาย (gut, synthetic, steel), ความตึง, สาย E, งบประมาณ ไปจนถึงการทดลองเพื่อค้นหาเสียงที่ใช่สำหรับคุณ อย่าลืมว่า สายไวโอลินคืออีกสิ่งที่สามารถเปลี่ยนเสียงได้อย่างชัดเจน - ให้เวลา ค่อยๆ ทดลอง แล้วจะพบสิ่งที่ลงตัวที่สุดสำหรับคุณ

BLOG

Music articles to help you understand the process of learning to play an instrument more!

VISIT OUR BLOG

Join PETERSON’S most distinguished music academy for everyone

Exclusive music instruction form the children at the age of four

REGISTER NOW
Book an appointment with Peterson Piano Institute Be friend with us @ Line